หนุ่มท่ามะกาสาวกเต่าหลวงปู่หลิว “เสริฐ เต่านินจา”เซียนพระรุ่นใหม่ จากเด็กขายขี้วัว ติดการพนัน หมดตัว ได้ข้อคิดสะกิดใจ กราบพระ ใฝ่ธรรม ทำกินเก็บออม จนวันนี้มี 30 ล้าน
จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในตำบลสนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีพูดคุยเกี่ยวกับชะตาชีวิตของหนุ่มขายขี้วัว สู้ชีวิตผันกลายมาเป็นเซียนพระ ชื่อดัง “เสริฐ เต่านินจา” ที่มีจิตกุศลออกระดมหาเงินช่วยวัดรางกระต่าย สร้างศาสนสถาน โดยเอ่ยชมว่าเป็นคนหนุ่มสู้ชีวิต
จากหลงผิดติดการพนันหมดตัว ไปกราบรูปหล่อหลวงปู่หลิว แล้วกลับตัวกลับใจขยันทำมาหากินจนชีวิตเริ่มมีเงินมีทอง และแบ่งปันมาทำบุญ นายปรมะ มหาโชติ หรือ “เสริฐ นินจาเต่า” เซียนพระรุ่นใหม่ อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 30/3 หมู่1 ต. สนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตและแนวทางการใช้ชีวิต
ายปรมะ ได้พูดคุย เปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตที่เคยตกต่ำมาก และอยากเตือนสังคม ให้คนเราสู้ชีวิต รู้จักเก็บออม ที่สำคัญต้องเป็นคนดี โดยเปิดเผยว่า บ้านตนเป็นครอบครัวชาวไร่ ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนและเลี้ยงวัว ตอนนี้วัวเลอกเลี้ยงแล้วทำไร่อย่างเดียว โดยในช่วงวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ได้เริ่มชีวิตเป็นพ่อค้าตะเวนรับซื้อขี้วัว ช่วงเวลาว่างก็จะเช่าพระเครื่องแลกเปลี่ยนไปเรื่อย มีเงินพอสมควร โดยตะเวนซื้อขี้วัวนำไปตากแห้งแล้วใส่รถกระบะไปขายให้ร้านรับซื้อที่อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เขาเอาไปขายทำปุ๋ยคอก ได้วันละ 1-2 เที่ยว เที่ยวละ 200 กระสอบ ใส่ถุงปุ๋ย15-20กก. ขายได้กำไรถุงละ 3 บาท หักค่าน้ำมันจะเหลือ เที่ยวละ 700 บาท มีเงินกินใช้สบาย
แต่ชีวิตก็เกิดพลิกผัน อายุประมาณ 23 ปี ได้นำชีวิตหลงผิดเข้าไปติดการพนัน เงินที่ได้มาจากค้าขายเอาไปเล่นหมดตัว รถยนต์ที่ขนปุ๋ยคอกก็โดนยึด น้ำมันขวดละ 20 บาทยังต้องยืมเงินเพื่อนซื้อเติมมอเตอร์ไซค์ ขอเงินเพื่อนฝูงใช้จ่ายทุกวัน จนเพื่อนๆบ่น และบางคนหลบหน้าไม่อยากคบ
แต่เมื่อชีวิตตกต่ำสุดๆ ได้มีคนแนะนำให้ไปทำบุญกราบขอพรรูปหล่อหลวงปู่หลิว ที่วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม ตนไปกราบและอธิฐานจิตว่าขอให้หลวงปู่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ขอแค่มีกินมีใช้ และจะเลิกเล่นการพนันโดยเด็ดขาด คนที่วัดไร่แตงทองเขาเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่หลิวท่านชอบเต่า เพราะเต่ามันมานะอดทน เดินหน้าอย่างเดียวไม่มีถอยหลัง ทุกปัญหาเดินหน้าสู้ ช้าๆแต่ก็ชนะสำเร็จทุกเรื่อง
หลังจากนั้นตนกลับมาบ้านและใช้ชีวิตโดยมีแรงบันดาลใจจากเต่า ที่มีแต่เดินก้าวหน้า ไม่มีถอยหลังเดินช้าแต่มั่นคง แม้แต่คนที่แย่กว่าเรา ยังดีกว่าเราได้ เราไม่ได้แย่ขนาดนั้น แค่หลงผิดไปช่วงหนึ่ง ก็พยายามปฏิบัติตัวใหม่ ทำมาหากินอย่างเดียว มีเวลาก็ไปกราบไหว้หลวงพ่อหลิว ไปทุกครั้งจะอธิษฐานจิต ว่าถ้าหากมีชีวิตดีขึ้น จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน และจากพื้นฐานเดิมตนสนใจในพระเครื่องตั้งแต่สมัยรับซื้อขี้วัวแล้วจึงเริ่มเข้าสู่วงการพระมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการเช่าบูชาเต่ามงคลของหลวงปู่หลิวจากที่ต่างๆ
อีกด้าน หลังจากกลับจากกราบรูปหล่อหลวงปู่หลิว ก็มีคนแนะนำว่าควรไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดรางกระต่ายรังสรรค์ ตนจึงไปกราบและขอให้หลวงพ่อวิจิตร อนุชาโต ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด ขอให้ท่านทำพิธีต่อชะตา ชักบังสุกุลเป็นบังสุกุลตายให้ เพื่อให้มีโชคมีลาภ เรื่องร้ายๆกลายเป็นดี
หลังจากนั้น ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป จากคนหมดตัวไม่มีที่พึ่ ทำมาค้าขายตามปกติก็เก็บออม และจับเช่าพระปล่อยไป ได้เงินเพิ่มมากพอสมควร ชีวิตดีขึ้นตามลำดับ จนเวลาผ่านมา 10 ปี ได้จับเงินล้าน ชีวิตเริ่มจากเงิน 600 บาทที่ยืมเพื่อนมา เช่าพระมาปล่อยเช่าต่อไป เก็บเล็กผสมน้อย จนได้เงินก้อนหนึ่งประมาณหลายหมื่น จนถึง 1 แสนบาท ใช้เป็นเงินทุน เก็บหอมรอมริบ จนมีขึ้นได้ในทุกวันนี้
“ปัจจุบัน มีหลักทรัพย์บ้านและที่ดินตลอดจนพระที่สะสมรวมกันแล้วมีมูลค่าถึง 30 กว่าล้าน หลังจากมีเงินก็ได้ใช้เงินทำนุบำรุงศาสนา ร่วมสร้างวัดวาอารามต่างๆ ที่ผ่านมาได้ร่วมสร้างวิหารหลวงพ่อหลิว มูลค่า6-7 ล้านบาท และร่วมสร้างเหรียญวัตถุมงคล ให้ศาสนิกชน ญาติโยมร่วมกันทำบุญจนได้เงินมาสร้างวิหารดัง ล่าสุด ได้ไปช่วยที่วัดรางกระต่ายรังสรรค์ จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น 1 พญาเต่าเรือนรุ่นใช้ชื่อพญาเต่าเรือนรุ่น มหาเศรษฐี รวยทรัพย์ ได้เงินมาถวายวัดจำนวน 2 ล้านบาท”
“เสริฐ เต่านินจา” กล่าวอีกว่า ในสภาวะเงินทองหายาก ขอให้คนที่ประสบปัญหาต่างๆ จงอย่าท้อกับชีวิตและอย่าหมดหวัง
“ผมเชื่อว่าถ้าเรา คิดดีปฏิบัติดี มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นำหน้า เราขยันทำมาหากิน รู้จักเก็บออมที่สำคัญต้องซื่อสัตย์สุจริตและอดทน ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองได้ทุกคน อยากให้เดินหน้าสู้แบบเต่าอย่างถอยชีวิตต้องดีขึ้น” เสริฐ เต่านินจา กล่าวให้ข้อคิดทิ้งท้าย